บทสรุปเรื่อง "5 แพร่ง":ใครยังไม่เคยดูห้ามเข้า

[MON]

แพร่งที่ 1 หลาวชะโอน
1.งูเขียวกินตับตุ๊กแก – คือลางบอกเหตุ อาเพศ ที่กำลังจะเกิดขึ้นกับตัวของเป้ เพื่อเป็นการเตือนสติ หากเป้รู้จักเป็นเด็กที่”เชื่อ”ผู้ใหญ่เสียบ้าง จุดจบคงไม่เป็นเช่นนี้ (ผู้ใหญ่ในที่นี้คือวัฒนธรรม+จารีต+คุณธรรม+พระสงฆ์+บุพการี)
1.2 บาตรพระคว่ำ – ก็ถือเป็นลางร้ายเหมือนข้อที่ 1
2. จำนวนของหินที่ปาใส่หน้าเป้ – ก้อนที่ 1.เป็นผลกรรมที่ฆ่าพ่อตัวเอง ก้อนที่ 2.เป็นผลจากการด่าแม่ตัวเอง”ร่าน” ก้อนที่3.เป็นผลจากการทำร้ายพระสงฆ์(ปทุสร้ายโดยการผลักเจ้าอาวาสล้มลง)
3. ตี้ – ที่รับบทโดยแดน มีบทบาทถึง 2 เรื่อง คือ1-เป็นคนขับมอไซฯให้เป้ไปปาหิน 2-จากนั้นขับหนีซิ่งจนเกิดอุบัติเหตุ ทำให้ต้องเข้าโรงบาลฯ เป้นเหตุทำให้ต้องมารับผลกรรม โดยการถูกขโมยร่าง ไปเป็นร่างทรงของคนอื่นแทน …. ทุกคนในทุกแพร่ง ย่อมได้รับผลกรรมจากการกระทำ
4. เปรต – ในแพร่งที่ 1 ไม่ได้มาเฉพาะในรูปของอสุรกาย แต่มาในรูปของสัตว์เลื้อยคลานต่างๆในเรื่องเช่น งู ตุ๊กแก ตะขาบ แมงป่อง หนอนฯ มากินของเซ่นไหว้ …พระไตรปิฎก บัญญัติไว้ว่าเมื่อเปรต ได้ไปผุดไปเกิด จะเกิดเป็นได้มากที่สุดแค่..สัตว์เลื้อยคลาน…………(ขนลุกใช่ไหม?)

[MON]

แพร่งที่2 ห้องเตียงรวม
คนเล่นของ – ลุงแก่ๆนั่น มีอาคม ทำให้พยาบาลเจาะเข็มฉีดยาไม่ได้
ลัทธิ – ทุกอย่าง ถูกเตรียมการไว้เพื่อหาผู้สืบทอดของลัทธิๆหนึ่ง “ตี้” ไม่สามารถหนีพ้นบ่วงกรรมที่ได้กระทำร่วมกับ “เป้” ได้ ในขณะที่เป้ต้องเสวยกรรมเป็นเปรต เพราะทำการปิตุฆาต …ตี้ ก็ต้องเสวยกรรม โดยการถูกริบร่าง ออกจากวิญญาณของตนเช่นกัน
คนวางแผน – นอกจากลูกศิษย์ลูกหาแล้ว นางพยาบาลแก่ๆ ดุๆ ก็เป็นคนสมุนลัทธิเช่นกัน เธอจึงทำทุกอย่างให้ตี้ต้องนอนร่วมห้องกับอาจารย์จอมขมังเวชผู้นั้น

[MON]

แพร่งที่ 3 backpackers
ซอม บี้ – ตอนนี้ไม่ใช่ “ผี” ที่เป็นรูปแบบของวิญญาณ แต่เป็นเหมือนผีดิบที่ติดไวรัส หรือมนุษย์กลายพันธุ์ อันเป็นผลมาจากสารเคมีที่กลืนเข้าไปในร่างกาย ทำให้เกิดสัญชาตญาณดิบ ป่าเถื่อน หิวโหย โกรธแค้นเหมือนสัตว์ร้าย เป็นผลกรรมที่มนุษย์ใช้วิทยาศาสตร์ในทางที่ผิด ให้โทษแก่โลก (ผมยกให้เป็นตอนที่ลึกซึ้ง และมีความเป็นสากลที่สุดใน 5 แพร่ง)
รถยนต์ที่ใช้หนี – เป็นรถที่กลับมาย้อมแมวขายใหม่ ในตอนรถมือสอง
สวัส ดิภาพ – หนังพยายามชี้ให้ตระหนักถึงคุณค่าของชีวิต โดยการที่นักท่องเที่ยววัยรุ่น เสี่ยงอันตรายออกมาผจญภัยท่องเที่ยวในประเทศที่ไม่คุ้นเคย ทั้งภาษา วัฒนธรรม ความเชื่อ ไม่มีการศึกษาข้อมูลอย่างถี่ถ้วนก่อนเดินทาง ทำให้ทั้ง2ไปไม่ถึงจุดหมาย (แนวคิดเหมือนในเรื่อง”หนีตามกาลิเลโอ”ชีวิตที่สำเร็จตามเป้าหมาย จำเป้นต้องตั้งใจและมีการวางแผนอย่างรอบคอบ เพื่อให้เกิดข้อผิดพลาดน้อยที่สุด)

[MON]

แพร่งที่ 4 รถมือสอง
กรรม มีจริง – เจ้าของผู้ประกอบการ,นายทุน ที่ไม่ให้ความสำคัญกับชีวิต และความสูญเสียอย่าง”นุช”ต้องเผชิญกับชะตากรรมที่ตนเองก่อขึ้นโดยรู้เท่าไม่ ถึงการณ์ เธอสูญเสียลูกอันเป็นที่รักไป กับเศษซากรถมือสองที่เธอกว้านซื้อโดยไม่สนใจประวัติ-ที่มาของรถ และไม่สนใจในเรื่องการประกันภัย+การรับประกันสินค้า ที่ให้กับลูกค้า เธอสนแต่แต่ผลกำไร บทสรุปก็คือไม่ว่ามีเงินเท่าไหร่ ก็ไม่สามารถซื้อชีวิตที่มีความสุขมาจากผลกรรม และความตายได้
ผีในเตนท์รถ – ผีผู้หญิงอ้วน ผีเด็กในล้อรถ ผีไฟคลิก และเด็กขายพวงมาลัย ทั้งหมดคือเหยื่อผู้เสียชีวิตจากการอุบัติเหตุทางถนน เกิดจากความประมาทของผู้ใช้ยานพาหะนะที่ไม่เคารพกฎจราจร

[MON]

แพร่งที่ 5 คนกอง
บทบาท ของมาช่า – แน่นอนอยู่แล้วว่า ควันหลงของเสียงวิพากษ์(บางส่วน)จากการที่พี่ช่าได้รับรางวัลสุพรรณหงส์ฯ สำหรับนักดูหนังบางกลุ่มเห้นว่าไม่เหมาะสม เพราะการแสดงที่ดูตื้นเกินไป ในเรื่องนี้จึงนำประเด็นตรงนั้นมาเสียดสีโดยการให้ดาราแสดงออกมาอย่างโอ เวอร์(เป็นหนัง – ซ้อน – หนัง เหมือนที่วิญญาณอาฆาตเคยทำไว้)
รถยนต์ของมาช่า – แน่นอนคือรถในแคตล็อก ที่นิโคลเปิดดูในตอนรถมือสอง
อุบัติเหตุ – เมา-ง่วง ไม่ควรขับ จะทำให้ตายหมู่ เกิดการสูญเสียต่อชีวิต และทรัพย์สิน เหมือนตัวละครที่ต้องเจออุบัติเหตุทุกคน

[MON]

สรุป 5 แพร่ง
เป็นหนังภาคต่อที่เน้นเนื้อหาสาระ จรรโลงสังคม(มากขึ้น) ชี้ให้เห็นว่าปัญหาของใคร คนใด-คนหนึ่ง ล้วนแล้วแต่ทำให้เกิดผลกระทบต่อผู้อื่น ก็คือสังคมกลุ่มใหญ่ ใหญ่ขึ้น ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ใหญ่มาก เกินกว่าจะเล่าให้หมดในทั้ง 5 เรื่องราว….แน่นอนว่าคงเป็นการยากที่จะสร้าง 10แพร่ง,100แพร่งมาให้เราดูเพื่อเตือนสติ เราต้องระมัดระวังเอง…อย่ารอให้หนังผีทำให้เรากลัวก่อนจะสำนึก เราต้องกลัวในสำนึก แล้วสังคมจะน่าอยู่ ไม่น่ากลัวเหมือนใน 5แพร่ง
ใน ด้านอารมณ์ มีทั้งดราม่า ตลก เศร้า หดหู่ ระทึก บีบคั้น แต่ทำออกมาแล้วลงตัว(อาจจะเพราะเป็นหนังสั้นมารวมกัน)ถือว่าหาดูได้ยากใน หนังผีเรื่องอื่นๆ…….

credit:
http://www.khonkaenlink.com